ReadyPlanet.com


ดูแลเด็กไปโรงเรียน ให้ปลอดภัยจากโควิด-19


 

เมื่อสถานการณ์โรคระบาดของโควิด-19 ในประเทศเริ่มดีขึ้น ทางรัฐบาลก็เริ่มผ่อนคลายการล็อคดาวน์เริ่มเปิดพื้นที่ต่างๆ ให้เราได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมแต่ต้องปรับการใช้ชีวิตประจำวันเป็นวิถีชีวิตใหม่ New Normal ที่ต้องรักษาระยะห่าง รวมถึงให้โรงเรียนต่างๆ สามารถเปิดเรียนได้ในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากที่เด็กๆ ต้องเรียนผ่านออนไลน์ที่บ้าน ทำให้พ่อแม่บางท่านอาจเป็นห่วงอยู่บ้าง จะมีวิธีดูแลเด็กๆไปโรงเรียนในช่วงนี้ให้ปลอดภัยจากเชื้อโวรัสนี้ได้อย่างไร

โรคโควิด-19 เป็นอันตรายต่อเด็กระดับไหน

เด็กมีความเสี่ยงป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต่ำมาก ตรงข้ามกับผู้ใหญ่ที่มีแนวโน้มป่วยหนักและมีอาการแทรกซ้อนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในประเทศอังกฤษ การเสียชีวิตจากโควิด-19 ในเด็กอายุต่ำกว่า 15 คิดเป็น 0.01 เปอร์เซ็นต์ สำหรับคนที่อายุ 15-44 ปี คิดเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่อายุมากกว่า 75 ปี คิดเป็นราว 75 เปอร์เซ็นต์

เด็กจะแพร่เชื้อโควิด-19ไปสู่เด็กด้วยกันได้ไหม

องค์การอนามัยโลกบอกว่าเด็กมีแนวโน้มติดเชื้อและแพร่เชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่ และมีงานวิจัยซึ่งทำการศึกษาผู้ติดเชื้อในเมืองเซินเจิ้นของจีนเมื่อต้นปีชี้ว่า เด็กมีแนวโน้มติดเชื้อเท่ากันกับผู้ใหญ่ ทำให้เกิดความกังวลว่าเด็กอาจแพร่เชื้อโดยที่ไม่แสดงอาการได้ แต่จากรายงานวิจัยผู้ติดเชื้อในครอบครัวทั่วประเทศจีน ซึ่งใช้วิธีการตามรอยผู้ติดเชื้อ พบว่าไม่มีแนวโน้มว่าการติดเชื้อที่เกิดขึ้นมาจากการแพร่เชื้อโดยเด็ก การศึกษากลุ่มผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสพบว่า เด็กคนหนึ่งที่ติดเชื้อมีปฏิสัมพันธ์กับคนมากกว่า 100 คนระหว่างที่มีอาการ แต่ไม่มีใครเลยที่ติดเชื้อจากเด็กคนนี้

การดูแลเด็กเมื่อไปโรงเรียน ในสถานการณ์โควิด 19

1. อธิบายให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับโรคโควิด 19

สำหรับเด็กเล็กเพราะเด็กเล็กอาจจะมีพัฒนาการไม่เต็มที่ มีความกลัวและวิตกกังวลสูง เด็กในวัยนี้อาจมีคำถามเมื่อต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเดิม เด็กอาจแสดงอาการกังวล โดยพ่อแม่ควรบอกลูกเกี่ยวกับรายละเอียดของโรคนี้

2. หากเด็กมีไข้ไม่ควรให้ไปโรงเรียน

หากเด็กมีไข้หรือมีอาการตัวร้อน มีอาการไอ ห้ามให้ลูกไปโรงเรียนเด็ดขาด หากลูกอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบหมอในทันที หากเพิ่งกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงต้องให้ลูกหลานให้หยุดเรียน 14 วัน เพื่อกักตัว

3. สอนเด็กเรื่องสุขอนามัย

เรื่องสุขอนามัยเป็นเรื่องที่จำ ควรให้เด็กล้างมือเป็นประจำ โดยอาจจะใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หรือสบู่เหลวล้างมือ ก่อนที่จะสัมผัสกับใบหน้า จมูกหรือปาก ส่วนในเด็กเล็กควรหัดให้เป็นนิสัย

4. เตรียมของใช้ให้ลูก

ควรเตรียม ช้อนส้อม,แก้วน้ำ หรือขวดน้ำ ส่วนตัวไว้ให้เด็ก เพื่อที่จะได้ไม่ปะปนกับคนอื่น ให้ล้างมือก่อน ใช้ช้อนกลางหากต้องทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ให้ดื่มน้ำจากแก้วน้ำส่วนตัวเท่านั้น ห้ามดื่มร่วมกับผู้อื่น

5. เตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและสบู่เหลวล้างมือ

อย่าลืมเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือหรือสบู่เหลวล้างมือ ใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียนเป็นประจำ เพื่อให้เด็กๆได้ล้างมือหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ

6. เน้นเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย

เด็กจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในพื้นที่โรงเรียน ยกเว้นขณะรับประทานอาหาร ควรเลือกหน้าอนามัยได้มาตรฐานที่ดีสำหรับเด็ก

7. ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กต้องสวมหน้ากากด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะไปส่งหรือรับลูกจากการไปโรงเรียน หากผู้ปกครองไม่สวมเด็กอาจจะเลียนแบบพฤติกรรมได้ คนภายในบ้านต้องร่วมกันเสริมสร้างสุขนิสัยในการใช้ชีวิต

8. การรับส่งเด็กไปโรงเรียน

ควรปฏิบัติตามกฏของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย จอดรถในพื้นที่ที่โรงเรียนกำหนด และให้ความร่วมมือเมื่อต้องผ่านจุดคัดกรองของโรงเรียนก่อนเข้าไปรับหรือส่ง

9. ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของโควิด 19 และหมั่นสังเกตอาการของเด็กๆ

10. หากเด็กมีโรคประจำตัว

หากเด็กมีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ มีอาการคัน มีน้ำมูกไหล ครั่นเนื้อครั่นตัวเป็นประจำ ควรให้แพทย์ออกใบรับรองให้เพื่อนำไปยื่นที่โรงเรียน เพื่อบ่งบอกว่าลูกของเรามีโรคประจำตัวเท่านั้นไม่ได้เป็นไข้และไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19

11. ให้เด็กทำความสะอาดอุปกรณ์การเรียน

ของทุกอย่างจะต้องสะอาด รวมถึงอุปกรณ์การเรียน โต๊ะ เก้าอี้ และกระเป๋านักเรียน อาจจะใช้เป็นแผ่นแอลกอฮอล์, แผ่นเช็ดทำความสะอาด, สเปรย์ฆ่าเชื้อ ให้เด็กเช็ดทำความสะอาดทุกครั้งก่อนและหลังใช้

12. การซักผ้าให้เด็ก

ต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาซักผ้า ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อก็ได้ หลีกเลี่ยงการซักผ้าในเครื่องซักผ้าสาธารณะ

13. ให้ลูกอาบน้ำทุกครั้งเมื่อกลับมาจากโรงเรียน

ต้องกำชับให้เด็กอาบน้ำทุกครั้งเมื่อกลับมาจากโรงเรียน

14. หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปสถานที่แออัด

งดการพาเด็กไปในที่ที่มีคนแออัด หากจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยและพกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวไปด้วย

15. รับประทานอาหารที่ปรุงสุก

ต้องทำอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ ให้ลูกรับประทาน อีกทั้งควรส่งเสริมให้ทานอาหารให้ครบ 5 และการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

เมื่อเด็กต้องออกนอกบ้านมีโอกาสพบเจอกับเชื้อโรคมากมาย ต้องดูแลเป็นพิเศษ และฝึกให้เด็กมีสุขอนามัยที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่สามารถระบาดได้ในโรงเรียน และที่อื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก สินมั่นคงประกันภัย ..เราประกัน คุณมั่นใจ.. 



ผู้ตั้งกระทู้ สกาล่า :: วันที่ลงประกาศ 2020-07-01 14:16:59 IP : 202.183.242.2


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.