โกโก้ปั่น และ โกโก้เย็น อีกหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยมของใครหลายๆคน มีกลิ่นที่หอม หวาน อร่อย ชวนรับประทาน แต่รู้กันหรือไม่ว่าโกโก้ที่เราดื่มกันนั้นให้ประโยชน์และโทษอะไรต่อร่างกายของเรากันบ้าง วันนี้ SUMIRE ได้นำเกร็ดความรู้ของโกโก้มาฝากทุกคนกันจะมีเรื่องอะไรบ้างมาดูกันเลยยย

ประโยชน์ของโกโก้

นอกจากโกโก้จะเป็นเมนูเครื่องที่อร่อยแล้ว รู้หรือไม่ว่านอกเหนือจากความอร่อย โกโก้ ยังให้ประโยชน์มากกว่าที่เราคิดอีกด้วย จะมีอะไรบ้างมาดูประโยชน์ของโกโก้กัน

• ช่วยต้านมะเร็ง

ผงโกโก้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เช่น สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารไนอาซีน (Niacin) ซึ่งสารอาหารสำคัญเหล่านี้ช่วยในการปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายโดยแบคทีเรีย และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

• ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ

สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ในผงโกโก้ เป็นตัวช่วยสำคัญที่ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพราะมีสรรพคุณในการป้องกันการอุดตันในเลือด และลดการปิดกั้นการไหลเวียนของหลอดเลือดซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ในโกโก้ยังมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันอิ่มตัว และกรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่ช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง

• ลดความดันโลหิต

สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ยังคงเป็นพระเอกใน โกโก้ และผงโกโก้ มีผลการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานโกโก้เป็นประจำ จะมีการขยายตัวของหลอดเลือดซึ่งช่วยให้ระบบเลือดสามารถไหลเวียนได้ดี และยังช่วยลดความเครียดที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการมีความดันโลหิตสูงอีกด้วย

• ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) ในโกโก้และผงโกโก้ ช่วยชะลอกระบวนการย่อยอาหาร ช่วยให้สามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลได้ดี และสารโพลิฟินอลส์ (Polyphenols) ยังมีส่วนช่วยในการสลายน้ำตาลกลูโคส เพื่อการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุล และเพิ่มความต้านทานต่ออินซูลินได้

• ป้องกันภาวะสมองเสื่อม

สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols)  และ สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ใน โกโก้ ได้รับการค้นพบว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานรของสมอง ช่วยให้เลือดไหวเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี และยังช่วยป้องกันโรคความเสื่อมของระบบประสาท (Neurodegenerative)

• ช่วยให้อารมณ์ดี ลดซึมเศร้า

เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกอ่อนล้า หดหู่ เศร้าโศก ให้โกโก้อยู่เป็นเพื่อนคู่ใจของคุณสิ สารอาหารในโกโก้หรือผงโกโก้ รวมถึงช็อกโกแลตที่ทำมาจาก โกโก้ ก็มีส่วนช่วยลดอาการเซื่องซึม เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า 

• ช่วยในการลดน้ำหนัก

ในโกโก้ จะให้คาร์โบไฮเดรตต่ำ กินแล้วทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ป้องกันการสะสมไขมันและยังเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย

• ช่วยสร้างสมดุลของเกลือแร่ในเลือด

ปัญหาเกลือแร่ในเลือดไม่สมดุลนั้น เนื่องมาจากร่างกายมีสารอาหารประเภท โพแทสเซียม แมกนีเซียม และโซเดียมไม่เพียงพอ ซึ่งการรับประทานโกโก้ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน

• โกโก้ดีต่อสุขภาพฟัน

การรับประทาน โกโก้ เป็นประจำ มีส่วนช่วยให้สุขภาพช่องปากแข็งแรงได้ เพราะในโกโก้นั้นมีสารที่ชื่อว่า ทีโอโบรมีน (Theobromine) ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ฟันแข็งแรง แต่ข้อสำคัญคือไม่ควรเติมน้ำตาลลงไปในโกโก้

• ผลข้างเคียงที่ควรระวัง

แม้ว่า โกโก้ จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีข้อควรระวังบางประการ สำหรับการรับประทานโกโก้ ดังนี้

1. ผู้ที่มีอาการวิตกกังวล ควรระวังการกินโกโก้ เนื่องจากคาเฟอีนในโกโก้ อาจส่งผลให้มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ
2. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานไม่ควรรับประทานโกโก้ในปริมาณมาก เนื่องจากอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
3. ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนการรับประทานผงโกโก้ อาจทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงกว่าเดิม
4. ผู้ที่เป็นต้อหิน ควรระมัดระวังโกโก้ เนื่องจากสารคาเฟอีนในโกโก้จะมีผลต่อความดันที่ดวงตา
5. ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หากรับประทานโกโก้อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้

โกโก้กับช็อคโกแลตต่างกันอย่างไร

ผงโกโก้ คือ ผลผลิตที่ได้จากเมล็ดคาเคา (Cacao) โดยการนำฝักโกโก้ที่สุกแล้ว ไปหมักเพื่อให้เกิดรสชาติ และตากให้แห้ง จากนั้นให้นำไปคั่วที่อุณหภูมิพอเหมาะจนเปลือกกล่อน จนได้เป็น “โกโก้นิปส์” แล้วจากนั้นก็จะนำโกโก้นิปส์ไปบดในอุณหภูมิที่สูง เพราะความร้อนจะช่วยให้โกโก้มีความข้นหนืด ได้สีน้ำตาลเข้มจนกลายเป็น “Cocoa Liquor” หลังจากนั้นก็นำไปบีบอัดด้วยความร้อน เพื่อให้สกัดไขมันโกโก้ออกไปจนหมดหรือเหลือแค่ 0-25 % เท่านั้น และเนื้อโกโก้ที่ได้ก็จะนำไปตากแห้งแล้วบดให้เป็นผงละเอียดจนกลายเป็น “ผงโกโก้” ที่มีความเข้มข้น ขม กลิ่นหอม ๆ ที่เราใช้ชงดื่มกันนั่นเอง

ผงช็อกโกแลต คือ ผลผลิตที่มาจากเมล็ดคาเคาเช่นกัน ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่เหมือนกันกับผงโกโก้ แต่จะต่างกันตรงที่เมื่อได้  “Cocoa Liquor” แล้วจะไม่ถูกสกัดไขมันโกโก้ออก แต่จะมีการเติมวัตถุดิบอื่น ๆ ลงไปด้วย เช่น น้ำตาล น้ำมันปาล์ม เป็นต้น แล้วค่อยไปตากแห้ง แล้วบดให้เป็นผงละเอียดเช่นกัน ซึ่งจะได้ผงช็อกโกแลตที่หอมหวาน หรืออาจจะขึ้นรูปเป็นแท่งช็อกโกแลต หรือรูปทรงต่าง ๆ ตามที่เราเห็นนั้นเอง

สรุปแล้วโกโก้กับช็อกโกแลต ผลิตจากเมล็ดคาเคาเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างอยู่ที่หลังจากได้  “Cocoa Liquor” ผงโกโก้จะนำมาสกัดเอาไขมันโกโก้ออก จึงทำให้มีรสขม แต่ผงช็อกโกแลตจะไม่สกัดไขมันโกโก้ออก หรือสกัดออกเพียงเล็กน้อย และยังเพิ่มวัตถุดิบในก่อนนำไปตากแห้งและบดเป็นผง จึงมีรสขมที่น้อยแถมมีความหวาน และจะมีราคาที่สูงกว่านั่นเอง

โกโก้มีคาเฟอีนเท่าไหร

โกโก้ หรือ เมล็ดคาเคานั้นนอกจากจะให้ความอร่อยจนเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคนแล้ว รู้หรือไม่ว่าในโกโก้ ก็ยังมีคาเฟอีนอยู่ด้วย โดยโกโก้ที่แปรรูปเป็นผงที่เราใช้สำหรับในการชงดื่มนั้น ผงโกโก้เพียง 1 ช้อนชา จะให้คาเฟอีนสูงถึง 6.6 มิลลิกรัมเลยทีเดียว และในผงโกโก้แบบเพียว ๆ ที่ยังไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติใด ๆ เพียงแค่ขนาด 100 กรัม (หรือ 3.5 ออนซ์) จะมีคาเฟอีนสูงถึง 230 มิลลิกรัมเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราควรรับประทานโกโก้อย่างพอเหมาะไม่มากจนเกินไป เพราะการรับบริโภคโกโก้มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการใจสั่น มือสั่น เหงื่อออกมากกว่าปกติ นอนไม่หลับ และเวียนหัวได้

วิธีกินโกโก้เพื่อสุขภาพ

การรับประทานโกโก้ให้ได้ประโยชน์และดีต่อสุขภาพ