ผนังคอนกรีตที่สร้างขึ้นจากสิ่งเหลือใช้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจากสถิติที่สำรวจครั้งล่าสุดพบว่า มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ในไทยมากกว่า 400,000 ตันต่อปี ในจำนวนนี้ยังไม่รวมกับการจับกุมโรงงานรีไซเคิลขยะอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยให้พบข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า โรงงานเหล่านี้นำเข้าขยะพิษมากกว่า 37,000 ตัน

สิ่งที่เกิดขึ้นกลายมาเป็นการสร้างนวัตกรรมผนังคอนกรีต จากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยตอบโจทย์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ ด้วยฝีมือของรองศาสตราจารย์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE)

ที่เป็นผู้ให้กำเนิดผนังคอนกรีตจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา มีจุดเด่นคือ ดีไซน์รูปทรงได้หลากหลายตามต้องการ น้ำหนักเบา กันความร้อนดี มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2 ต่อ 1.คือช่วยแก้ไขปัญหาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าล้นเมือง 2.ลดปัญหาฝุ่นละออกจากการผลิตคอนกรีตดั่งเดิมที่ต้องระเบิดภูเขาหินปูน

มีกระบวนการผลิตผนังคอนกรีต จากขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างไร?

ผนังคอนกรีตจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ เกิดจากการใช้องค์ประกอบของขยะเหลือใช้ต่าง ๆ เช่น แผงวงจรไฟฟ้าในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีส่วนผสมหลักคือทองแดง เงิน ดีบุก ตะกั่ว เหล็ก ไฟเบอร์กลาส และพลาสติก นำมาบดและย่อยซาก จนออกมาเป็นผงลามิเนต จากนั้นนำไปผสมกับปูนซีเมนต์ในสัดส่วน 1 ต่อ 1

ต่อมาขึ้นรูปด้วยวิธีแบบเดียวที่โรงงานและแหล่งจำจัดหน่าย http://www.ecolite.co.th/ นำมาใช้ จึงขึ้นรูปเป็นผนังคอนกรีตตามขนาดที่ต้องการได้ ทั้งยังออกแบบได้หลายรูปทรง ทั้งการทำวัสดุก่อสร้างประเภทต่าง ๆ เช่นแผ่นพื้น บล็อกผนัง เซรามิก บล็อกทางเดิน รวมถึงวัสดุตกแต่งบ้าน อาทิ โต๊ะ โคมไฟ เก้าอี้ แจกัน

เตรียมพัฒนาผนังคอนกรีต ให้มีราคาใกล้เคียงกับตลาด ก่อนนำไปใช้เชิงพานิชย์

จากการนำผนังคอนกรีตไปลองใช้ในวงการก่อสร้าง อย่างสมาร์ทโฮม และการออกแบบ สมาร์ทเฟอร์นิเจอร์ ก็ได้ผลตอบรับที่น่าพึงพอใจ ทีมนักวิจัยจึงเตรียมต่อยอดความสำเร็จ เพื่อนำไปใช้จริงในเชิงพานิชย์ต่อไป ซึ่งขณะนี้ ก็อยู่ในระหว่างกระบวนการพัฒนาและผลิตให้ได้ต้นทุนต่ำกว่า หรือมีความใกล้เคียงกับราคาอิฐมวลเบาที่ขายอยู่ในท้องตลาด เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้บริโภค

โดยหวังว่า นวัตกรรมผนังคอนกรีตชิ้นนี้จะเข้ามาช่วยพลิกโฉมขยะอิเล็กทรอนิกส์ในไทยที่มีปริมาณสูงถึง 400,000 ตันต่อปี เนื่องจากอิเล็กทรอนิกส์เป็นวัสดุที่มีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อพังแล้วต้องทิ้งไปโดยไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีการนำวัสดุดังกล่าวไปใช้ในเชิงพานิชย์.