โชว์ศักยภาพผู้นำศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งภูมิภาค ผ่านมหกรรมสินค้าเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากผู้ประกอบการชั้นนำทั่วเอเชีย ด้วยนวัตกรรมสีเขียวที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วันนี้  -16ตุลาคมนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2   ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

          กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดพิธีเปิดงานสุดยอดมหกรรมแสดงสินค้า “BANGKOK RHVAC 2011 AND BANGKOK E&E 2011” งานแสดงเครื่องเย็น อุปกรณ์ทำความร้อนระบบระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ และงานแสดงเครื่องไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 ตุลาคม ศกนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อแสดงศักยภาพ มาตรฐานของสินค้าไทย พร้อมส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าระดับภูมิภาค

            นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานเปิดงาน กล่าวว่า    สภาพเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนล้วนมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นชัดเจน ส่งผลให้มีปริมาณความต้องการสินค้าเพิ่มสูงขึ้น และทำให้สัดส่วนการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงกว่า 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง         8 เดือนแรกของปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงการยอมรับในมาตรฐานสินค้าไทยและการเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนเวทีการค้าอาเซียน โดยการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นอีกแนวทางสำคัญ ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งพร้อมเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของภูมิภาคและมีความสามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่สายตาของผู้ประกอบการทั่วโลก

“จากสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีแนวโน้มการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลให้ประเทศไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ช่วง 8 เดือนแรกของปี พ.ศ.2554 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า มีมูลค่าการส่งออก 15,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นอัตราขยายตัว 17.48 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2553 โดยมีตลาดส่งออกหลักได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, จีนและฮ่องกง ด้านสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออก 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นอัตราขยายตัว 26.65 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2553 โดยมีตลาดส่งออกหลักได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกกว่า 22,780 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยคิดเป็นอัตราขยายตัว 21.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2553 โดยมีตลาดส่งออกหลักได้แก่ จีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และญี่ปุ่น อันแสดงถึงบทบาทสำคัญของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนเวทีการค้าอาเซียน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงาน BANGKOK RHVAC 2011 และ BANGKOK E&E 2011 ที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นและเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมสู่สายตานานาชาติ โดยนอกจากจะให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าอย่างมีคุณภาพแล้ว ยังใส่ใจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีสีเขียว เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ”นายศิริวัฒน์ กล่าว

มหกรรมแสดงสินค้า “BANGKOK RHVAC 2011 AND BANGKOK E&E 2011” จัดขึ้นโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสองกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ ทั้ง กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมผู้ประกอบการชั้นนำทั่วเอเชียกว่า 200 ราย ที่นำสินค้ามาจัดแสดงไว้ในงานเดียวกว่า 800 คูหา เพื่อรองรับผู้เข้าเยี่ยมชมจากทั่วโลกกว่า 30,000 คน โดยตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายตลอดการจัดงานสูงกว่า 300 ล้านบาท

โดยงาน BANGKOK RHVAC 2011 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Green Innovations for the Better Life”      ที่สื่อถึงการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เน้นรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับคุณภาพชีวิตที่สะดวกสบายอีกขั้น โดยพบกับนวัตกรรมใหม่ของเครื่องปรับอากาศที่เรียกว่า “Cassette type” เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ซึ่งโดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้การติดตั้งและถอดล้างแอร์ฟิลเตอร์ทำได้สะดวกด้วยตนเอง และกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การสัมมนาในหัวข้อ “บ้านสีเขียว” ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน การเสวนาความรู้เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาและการทำความสะอาด เพื่อสร้างการมีส่วนรวมอนุรักษ์พลังงานในระดับครัวเรือน และกิจกรรมประกวดค้นหาสุดยอดช่างแอร์ 2011 เพื่อประชันความสามารถในการติดตั้งและซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศ ด้วยไหวพริบ ปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานทุกท่านยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่กับการแจกเครื่องปรับอากาศฟรีวันละ 1 เครื่อง ตลอดการจัดงาน

และงาน Bangkok Electric & Electronics 2011 จัดขึ้นด้วยแนวคิด “Save Energy = Save the World” เพื่อสื่อถึงเทคโนโลยีชั้นนำที่ช่วยลดการใช้พลังงาน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรักษ์โลกสีเขียวอย่างยั่งยืน ตั้งแต่อุปกรณ์การใช้งานภายในครัวเรือนไปจนถึงอุปกรณ์สำหรับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ พร้อมมหกรรมสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับนานาชาติ และกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ที่น่าสนใจ เช่น การสัมมนาในหัวข้อ “Factory of the Future for Thailand 2011” และ “Environmental Directive in Electrical and Electronics Industry”                ที่จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในระบบการผลิตของภาคอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพสู่ความสามารถในการแข่งขันกับต่างชาติอย่างทัดเทียม ด้วยสินค้าระดับคุณภาพนานาประเภทสำหรับผู้ร่วมงานครั้งนี้โดยเฉพาะ

พร้อมพบโชว์เคสสำคัญกับการจัดแสดงบ้านต้นแบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานภายใต้แนวคิด “Green Lifestyle Solution” ที่สื่อถึงรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่สะดวกสบาย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและใส่ใจต่อการรักษาสภาพแวดล้อมอย่างมีคุณค่า บนพื้นที่ใช้สอยที่แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซน Home Solution ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น โซน Housing Technology Solution ประกอบด้วยห้องนอน พื้นที่สำหรับทำงาน ห้องครัว ระเบียง และส่วนสุดท้าย โซน Eco Solution ประกอบด้วยพื้นที่สีเขียวบริเวณรอบตัวบ้านสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยนำเสนอการออกแบบในสไตล์ที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมที่ผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยกับภูมิปัญญาไทยเอาไว้อย่างลงตัว โดยคำนึงถึงการออกแบบที่ใช้งานได้จริง ซึ่งสามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน โดยแบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 12 - 14 ตุลาคม 2554 และวันค้าปลีก ในวันที่ 15 - 16 ตุลาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thaitradefair.com