1. สำรวจความพร้อมของตัวเอง ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านควรเริ่มต้นด้วยการตรวจเช็กกำลังทรัพย์และประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ เริ่มจากการตอบคำตอบเหล่านี้

- ถามว่าตัวเองมีรายได้เท่าไหร่ มีรายได้จากแหล่งใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ประจำ ธุรกิจส่วนตัว หรืองานฟรีแลนซ์ มีโอกาสหารายได้จากช่องทางอื่นหรือไม่ 

- มีวิธีเก็บเงินอย่างไร ออมก่อนใช้ ใช้เหลือแล้วออม มีเงินออมกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ หรือไม่มีเงินออมเลย

- มีเงินสำรองฉุกเฉินหรือไม่ มีพอใช้ได้นานกี่เดือน และมีหนี้กี่เปอร์เซ็นของรายได้

- วางแผนรายรับ-รายจ่ายอย่างไร มีพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไร ดูว่ามีความพร้อมแค่ไหนจะกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมและไม่เกินกำลังของตัวเอง

 

2.ประเมินสุขภาพการเงินของตนเอง โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้

- สุขภาพการเงินอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง ใช้เงินแบบไม่ได้วางแผน ไม่มีเงินออมและไม่มีความมั่นคงในระยะยาว หากมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอาจเป็นหนี้ได้ทันที

- สุขภาพการเงินปกติ วางแผนการใช้จ่ายและมีการออมเงินสำหรับอนาคต

- สุขภาพการเงินดีเยี่ยม วางแผนการใช้ง่ายอย่างรอบคอบ คิดก่อนซื้อ มีวินัยเก็บออมเงินสม่ำเสมอ และนำเงินออมไปลงทุนเพิ่มเติม

 

3.ตั้งเป้าหมายงบประมาณให้ชัดเจน เนื่องด้วยการซื้อบ้านนั้นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ จึงจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายให้มีความชัดเจนและประเมินวัดผลได้ตั้งแต่ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้รู้ว่ามีโอกาสสําเร็จเป็นจริงได้หรือไม่ การผ่อนบ้านมีกําหนดระยะเวลาที่แน่นอน วิธี เก็บ ตัง ต้องเจาะจงว่าจะเก็บออมอย่างไร มีรายละเอียดชัดเจน เช่น กำหนดจำนวนเงินออม 100,000 บาท-120,000 ต่อปี ดูว่าในระยะ 3 เดือนแรกทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ จากนั้นประเมินอีกครั้งในช่วง 6 เดือน และ 12 เดือนตามลำดับ เพียงเท่านี้ก็รู้ว่ามีโอกาสบรรลุเป้าหมายได้ตามเวลาหรือไม่

 

4.เก็บเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว การมีบ้านของตัวเองสักหลังไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนอื่นต้องหาเงินเพื่อใช้ดาวน์บ้าน โดยหักรายได้ส่วนหนึ่งฝากในบัญชีสำหรับซื้อบ้าน ยิ่งมีเงินดาวน์บ้านก้อนใหญ่ เงินต้นและดอกเบี้ยผ่อนบ้านแต่ละเดือนก็จะน้อยลง

 

5.หาวิธีออมเงิน (เพิ่มเติม: https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/505) ที่มีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าระหว่างทางที่เก็บเงินซื้อบ้าน อาจมีอุปสรรคทำให้การเก็บออมเงินในแต่ละเดือนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แนะนำให้เก็บเงินก่อนใช้ โดยใช้ตัวช่วยอย่างเช่น ระบบตัดเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติ เมื่อเงินเดือนเข้าแล้วจะถูกหักส่วนหนึ่งโอนไปบัญชีซื้อบ้านทันที

 

6.ลงทุนเงินออมให้งอกเงย โดยแบ่งเงินออมไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อให้ออกดอกผลงอกเงย มีวิธีการซื้อกองทุนรวม ฝากเงินในกองทุนต่าง ๆ และลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เพื่อให้ผลตอบแทนช่วยให้ระยะเวลาผ่อนชำระสั้นขึ้น 

 

7.มองหาอาชีพเสริม ไม่จำเป็นต้องทำงานประจำสองที่ แต่เริ่มต้นจากงานอดิเรกที่ชอบนำมาสร้างรายได้ในวันหยุด ขายของออนไลน์ หรืออาชีพเสริมทางอินเทอร์เน็ต เพื่อให้มีเงินเพิ่มขึ้น

 

ด้วยวิธีที่แนะนำข้างต้นนี้ จะทำให้การวางแผนซื้อบ้าน สักหลังไม่ไกลเกินเอื้อมเลย

 

 

https://blog.ghbank.co.th/save-to-buy-a-house/

https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/ไอเดีย-เก็บเงินซื้อบ้าน-สำหรับคน-gen-y-และ-gen-z

https://www.principal.th/th/easy-steps-prepare-finances-mortgage-salaryman

https://moneyhub.in.th/article/saving-money-house/

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/885868